
ท่องเที่ยวต่างแดนด้วยประสบการณ์ใหม่ๆตื่นเต้นสนุกสนานตลอดเวลา
จัดทริปท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อเติมพลังให้ชีวิตตน
เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มาได้ทั้ง 2 ฤดูเลย เหมาะแก่มาเยือนในหน้าหนาวและหน้าร้อน มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ให้เราได้เลือกชมสัมผัส กับอากาศอันบริสุทธิ์ยามเช้า เมืองนี้ยังลายล้อมไปด้วยป่าเขาต้นไม้นานาพันธ์ อีกทั้งลำธารทอดยาวลงมาขนาบข้างกับชุมชน ยิ่งทำให้บรรยากาศชวนน่าหลงไหลตระการตา อยากจะไปเยี่ยมชมสักครั้งหนึ่งในชีวิต
แล้วสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เพราะมีความเงียบสงบเหมาะแก่การมาชาร์จพลังมากๆ เพื่อเติมความสดชื่นเข้าสู่ร่างกายเรา พร้อมกับโยนทิ้งความเครียดควบคู่ไปด้วยกันเลย
โดยจุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีความสวยของธรรมชาติแล้ว บ้านเรือนอาศัยก็ยังคงรักษาเอาไว้แบบดั้งเดิมโบราณ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไร ทำเพียงแค่ซ่อมบำรุงรักษาเท่านั้น ซึ่งตัวโครงสร้างเองเป็นเแบบเดิมทุกประการ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีวัฒนธรรมญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่ แม้แต่วิถีชีติเองก็ยังดำรงไว้เหมือนกับการเก็บรักษาเอาไว้ เปรียบดั่งคุณค่าทางจิตใจ จนได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลก ซึ่งแหล่งท่องเที่ยงของ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ นี้นับว่าเป็นอีกหนึ่ง สถานที่สำคัญของเขาเลย
แถมยังสามารถมาได้ทั้ง 2 ฤดูอีกด้วย เพราะมีความสวยงามที่แตกต่างกันมากๆ จนเหมือนไม่ใช่สถานที่เดียวกัน ถ้าใครชอบความหนาวเย็น การมาช่วงหน้าหนาวนั้นก็เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว พร้อมเดินชมความสวยงามของเมืองนี้ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งสีขาวโพลน หรือถ้าหากมาหน้าร้อนก็จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีทั้งภูเขา ที่ดูแล้วมันสบายตาสบายใจ ซึ่งอากาศมันก็จะไม่ร้อนเกินไปด้วย ให้อารถม์ความเย็นเหมือนไปเดินในห้างบ้านเรา
ถ้าหากใครมาในช่วงหน้าหนาว ก็จะพบกับหิมะขาวปุยนุ่มปกคลุมครอบลงบนพื้นที่นั้นจนทั่ว ทำให้ ชิราคาวาโกะ สวยเหมือนเมืองในเทพนิยายที่หลุดออกมาจากหนังสือ หรือภาพวาดมีชีวิตแต่งแต้มจากฝีมือธรรมชาติ ถ้าใครได้มาชมต่างก็เอยปากเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉันโดนมนต์เสน่ห์จนไม่อยากจะกลับออกไปจากที่แห่งนี้เลย ยิ่งช่วงเวลาค่ำคืนมีแสงไฟสีเหลืองทองสาดส่องออกมา ตัดกับเกล็ดน้ำแข็งที่กำลังโปรยปราย มันทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ถูกขนานนามว่า เมืองแห่งเวทมนต์ เพราะมันสวยงามมากจนยากจะอธิบายให้ผู้อื่นฟังได้ นอกจากต้องเห็นด้วยตาตนเองเท่านั้น
และแม้แต่ในหน้าร้อนก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเลย เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิพวกน้ำแข็งทั้งหลายก็จะละลาย ทำให้เราได้เห็นความงามอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนถูกซ้อนไว้ภายใต้หิมะขาว เพราะเหล่าบรรดาพวกต้นไม้เริ่มจะเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งใบไม้ส่วนใหญ่หลังจากไม่ได้โดนแดดมาเป็นเวลานาน เมื่อรับแสงแล้วก็จะเข้าสู่ขบวนการสังเคราะห์ตัวมันเอง ทำให้ใบไม้เกิดการเปลี่ยนสี อย่างช่วงเทศกาลเราจะได้พบกับความสดใส ความสบายตา ความสดชื่น จากวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้เรานั่งมองความสวยงามแบบไม่มีเบื่อ แถมอากาศก็ไม่ร้อนมากจนเกินไป
ด้วยความงามที่สรรค์สร้างขึ้นมาแล้ว ความเงียบสงบเองก็ถือเป็นปัจจัยหลัก ทำให้หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ดูน่าหลงใหล เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง มันมีความโดดเด่นไม่เหมือนสถานที่อื่นๆ และยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากบ้านเรือนที่ทำจากไม้เก่าแก่ โดยรวมแล้วสถานที่แห่งนี่นับว่าแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แถมยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย อยากจะให้อยู่ในลิสรายการท่องเที่ยว ของผู้ที่จะมาเยื่อนประเทศนี้แบบแบ็คแพ็ค เพื่อจะได้มีเวลาชื่นชมความสวยงามอย่างเต็มที่ หากพลาดไปน่าเสียดายแย่เลยสำหรับสถานที่สำคัญแบบนี้